
รูปแบบของมัลแวร์ชนิดต่างๆที่ควารรู้ (1)
Table of Contents
มัลแวร์ ย่อมาจากซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย เป็นคำที่ครอบคลุมสำหรับ ไวรัส เวิร์ม โทรจัน และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นอันตรายอื่น ๆ ที่แฮ็กเกอร์ใช้เพื่อทำลายล้าง และเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณ
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ซอฟแวร์ถูกระบุว่าเป็นมัลแวร์นั้น อยู่บนพื้นฐานของการใช้งานที่ต้องการมากกว่าเทคนิคเฉพาะ หรือเทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้างมันขึ้นมา เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งเพื่อหวังร้าย
มัลแวร์และไวรัสต่างกันอย่างไร?
ไวรัสจัดเป็นมัลแวร์ประเภทหนึ่ง ดังนั้นไวรัสทั้งหมดจึงเป็นมัลแวร์ (แต่ไม่ใช่ทุกอย่างของมัลแวร์ที่เป็นไวรัส)
ชนิดของมัลแวร์
ไวรัส (Virus)
ไวรัสคอมพิวเตอร์นั้น เป็นสิ่งที่สื่อส่วนใหญ่ และผู้ใช้งานทั่วไปเรียกโปรแกรมมัลแวร์ทุกตัวที่รายงานในข่าว โชคดีที่โปรแกรมมัลแวร์ส่วนใหญ่ไม่ใช่ไวรัส ไวรัสคอมพิวเตอร์จะแก้ไขไฟล์โฮสต์อื่น ๆ ที่ถูกต้อง (หรือชี้เป้าไปยังไฟล์เหล่านั้น) ในลักษณะที่เมื่อไฟล์ของเหยื่อถูก Execute ไวรัสก็จะถูกดำเนินการเช่นกัน
ปัจจุบันไวรัสคอมพิวเตอร์นั้น ล้วนเป็นเรื่องแปลก และมีน้อยกว่าร้อยละ 10 ของมัลแวร์ทั้งหมด
เวิร์ม (Worms)
เวิร์มนั้นมีมาก่อนไวรัสคอมพิวเตอร์ ต้องย้อนกลับไปจนถึงวันที่ยังมีคอมพิวเตอร์แบบเมนเฟรม แพร่กระจายไปโดยอีเมล สิ่งที่ทำให้เวิร์มกลายเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงในปลายปี 1990 และเป็นเวลาเกือบทศวรรษที่ผ่านมาแล้ว ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ ได้ตกอยู่ในวงล้อมโดยเวิร์มที่เป็นอันตราย ซึ่งเป็นสิ่งที่แนบมาถึงพร้อมกับข้อความในอีเมล เมื่อบุคคลหนึ่งทำการเปิดอีเมลที่มีเวิร์ม และทั้งองค์กรจะติดไวรัส (เวิร์ม) ทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้น (น่ากลัวจริงๆ)
โทรจัน (Trojans)
ปัจจุบันมัลแวร์ประเภทเวิร์มนั้นถูกแทนที่โดย ม้าโทรจัน (Remote Access Trojan) ซึ่งโปรแกรมมัลแวร์ที่ถือว่าเป็นอาวุธที่เหมาะสมสำหรับแฮกเกอร์ โทรจันทำงานโดยการปลอมตัวเป็นโปรแกรมที่ถูกกฎหมาย แต่มีคำแนะนำที่เป็นอันตราย พวกมันจะแฝงตัวอยู่ในเครื่องได้อย่างยาวนาน และนานกว่าไวรัสคอมพิวเตอร์ โดยส่วนใหญ่คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันติดม้าโทรจันมากกว่ามัลแวร์ชนิดอื่น ๆ
เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจะต้องติดโทรจันเพื่อทำงานให้มัน โทรจันมักจะมาถึงทางอีเมล หรือถูกติดโดยผู้ใช้งานเมื่อพวกเขาเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง โทรจันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือโปรแกรมป้องกันไวรัสปลอม ที่โผล่ขึ้นมา และอ้างว่าเครื่องของคุณติดไวรัส แล้วทำการสั่งให้คุณเรียกใช้โปรแกรมเพื่อสแกนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ ผู้ใช้งานจะถูกโทรจันเล่นงาน และโทรจันก็จะทำการเข้าถึงสิทธิ์ต่างๆ ของอุปกรณ์
มัลเวอร์ไทซิ่ง (Malvertising)
เพื่อไม่ให้สับสนกับแอดแวร์ มัลเวอร์ไทซิ่ง คือการใช้โฆษณา หรือเครือข่ายโฆษณาที่ถูกกฎหมาย เพื่อส่งมัลแวร์ไปยังคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานที่ไม่มีความสงสัยใดๆ ตัวอย่างเช่น อาชญากรไซเบอร์อาจจ่ายเงิน เพื่อวางโฆษณาบนเว็บไซต์ที่ถูกกฎหมาย เมื่อผู้ใช้คลิกที่โฆษณา โค้ดในโฆษณาจะเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้งาน ไปยังเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย หรือติดตั้งมัลแวร์ในคอมพิวเตอร์ ในบางกรณีมัลแวร์ที่ฝังอยู่ในโฆษณา อาจทำงานโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องดำเนินการใด ๆ จากผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นเทคนิคที่เรียกว่า “ถูกบังคับให้ดาวน์โหลด”
อาชญากรไซเบอร์ ยังเป็นที่รู้จักกันในการเข้ายึดครองเครือข่ายโฆษณาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ส่งโฆษณาไปยังเว็บไซต์หลาย บ่อยครั้งที่เว็บไซต์ยอดนิยมเช่น New York Times, Spotify และตลาดหลักทรัพย์ของลอนดอน กลายเป็นพาหะสำหรับโฆษณาที่เป็นอันตรายทำให้ผู้ใช้งานตกอยู่ในอันตราย
เป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ที่ใช้มัลเวอร์ไทซิ่งในการโฆษณา คือการสร้างรายได้ที่แน่นอน มัลแวร์โฆษณาสามารถส่งมัลแวร์ทำเงินทุกชนิด รวมไปถึง มัลแวร์เรียกค่าไถ่ สคริปต์ การทำเหมืองข้อมูล หรือโทรจันจากธนาคาร
สปายแวร์ (Spyware)
สปายแวร์ถูกใช้บ่อยที่สุด โดยผู้ที่ต้องการตรวจสอบกิจกรรมคอมพิวเตอร์ของคนที่เป็นห่วง แน่นอนในการโจมตีเป้าหมายอาชญากร สามารถใช้สปายแวร์เพื่อบันทึกการกดแป้นของเหยื่อ และเข้าถึงรหัสผ่านหรือทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ
โปรแกรมแอดแวร์ และสปายแวร์มักจะทำการลบออกได้บ่อย และง่ายที่สุด เนื่องจากโปรแกรมเหล่านั้นไม่ได้มีเจตนาร้ายเท่ากับมัลแวร์ประเภทอื่น ซึ่งการค้นหาโปรแกรมที่เป็นอันตราย และป้องกันไม่ให้ถูกดำเนินการ – แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว
ความกังวลที่ใหญ่กว่าแอดแวร์หรือสปายแวร์จริงๆ ก็คือกลไกที่ใช้ในการหาประโยชน์จากคอมพิวเตอร์ หรือผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในเชิงของทางวิศวกรรมทางสังคม (Social Engineering) ซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้เปรียบเทียบหรือสาเหตุอื่นๆ เนื่องจากแม้ว่าความตั้งใจของโปรแกรมสปายแวร์ หรือแอดแวร์ จะไม่เป็นอันตรายเช่นเดียวกับโทรจันเพื่อเข้าถึงจากระยะไกล พวกเขาทั้งสองใช้วิธีเดียวกันในการเจาะระบบการมีแอดแวร์ / สปายแวร์ควรทำหน้าที่เป็นคำเตือนว่าอุปกรณ์ หรือผู้ใช้มีจุดอ่อนที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ก่อนที่ความเลวร้ายที่แท้จริงจะเกิดขึ้น
Reference : www.bitdefender.co.th
สามารถติดตามเราได้ตาม Social Media ต่าง ๆ เพื่อรับข้อมูลข่าวสารและเทคนิคคอมพิวเตอร์ดี ๆ จาก KODEFIX ได้ที่
Facebook Page : KODEFIXThailand
Blockdit : www.blockdit.com/kodefix
Blogger : kodefix.blogspot.com
Website : kodefix.com